วันเสาร์ที่ 14 เมษายน พ.ศ. 2561


บันทึกการเรียนครั้งที่ 10

 วันพุธ ที่ 21 มีนาคม 2561

เวลา 08.30-11.30 น.

เนื้อหา

- นำเสนอคำคมเกี่ยวกับผู้บริหาร

- เทคนิคการเสริมสร้างบุคลิกภาพที่ดีสำหรับการเป็นผู้บริหาร

ความหมายของบุคลิกภาพ
ลักษณะทั้งภายนอกและภายในที่รวมอยู่ในตัวบุคคลใดบุคคลหนึ่งและเป็นผลทำให้บุคคลนั้น มีความแตกต่างไปจากบุคคลอื่นๆ บุคลิกภาพแบ่งออกเป็น 2 สภาพ ด้วยกันคือ
  บุคลิกภาพภายนอก สามารถสังเกตเห็นหรือสัมผัสได้ด้วยประสาททั้ง 5 คือ ตา หู จมูก ลิ้น กาย สามารถปรับปรุงเปลี่ยนแปลงได้โดยการฝึกเลียนแบบ และสามารถวัดผลได้ทันที บุคลิกภาพภายนอกที่สำคัญที่สุด คือ บุคลิกภาพทางกายและวาจา
  บุคลิกภาพภายใน หมายถึง บุคลิกภาพที่ไม่สามารถมองเห็นได้ชัดเจน เป็นส่วนที่สัมผัสได้ค่อนข้างยากและต้องใช้เวลาในการสัมผัส
ประเภทของบุคลิกภาพ
บุคลิกภาพภายนอก  คือ  สิ่งที่เห็นได้ชัดเจนจากภายนอกของ
  แต่ละคนสามารถที่จะปรับปรุงแก้ไขได้ง่าย ใช้เวลาไม่นาน แบ่งได้เป็น  
  4 หมวด คือ
            1.  รูปร่างหน้าตา
            2.  การแต่งกาย
            3.  กิริยาท่าทาง
            4.  การพูด
บุคลิกภาพภายใน  คือ สิ่งที่อยู่ภายในจิตใจ หรืออุปนิสัยใจคอที่มองไม่เห็น สัมผัสไม่ได้  แก้ไขได้ยาก  เช่น
  1. ความเชื่อมั่นในตนเอง  2. ความกระตือรือร้น
     3. ความรอบรู้  4. ความคิดริเริ่ม
     5. ความจริงใจ  6. ไหวพริบปฏิภาณ
     7. ความรับผิดชอบ  8. ความจำ
     9. อารมณ์ขัน
การมองตัวเองในกระจกเงา
การมองเห็นตัวเอง
การยอมรับตัวเอง
การเข้าใจในตัวเอง
ความเชื่อถือตัวเอง
ความต้องการเปลี่ยนตัวเอง

การจำแนกบุคลิกภาพ 4 แบบ (Harris 1973)


สาเหตุที่ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงบุคลิกภาพ คือความท้อถอย

บุคลิกภาพที่ไม่สร้างสรรค์และอยู่ภายในตัวตนแล้วทำให้ความเป็นคนๆ นั้นไม่สมบูรณ์ ได้แก่ความท้อถอยแม้ว่าเป็นประโยคสั้นๆ แต่ถ้าอาการนี้ถ้าเกิดขึ้นกับใครแล้ว อาการนี้จะเข้ามาทำลายความสมดุลในตัวเรา เข้ามาแทรกในความรู้สึกนึกคิดทำให้พลังและศักยภาพของเราลดน้อยลงกว่าครึ่ง ในเรื่องความท้อถอยมักเกิดขึ้นกับบุคคลที่อยู่ในช่วงอายุ 20-40 ปี แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าบุคคลในช่วงอายุอื่นจะไม่มีความท้อ บางท่านอาจเกิดอาการท้อเป็นช่วงๆ บางท่านโชคดีไม่รู้จักความท้อ 
าเหตุของความท้อถอย
ด้านบุคลิกภาพ บุคลิกภาพที่พึ่งพาคนอื่น บุคลิกภาพที่ขาดความอดทน ขาดความอดกลั้น  บุคลิกภาพที่เชื่อมั่นตนเองสูง บุคลิกภาพที่มีความรับรู้ตนเองต่ำ จิตใจไม่มั่นคง ไม่มั่นใจในทุกเรื่อง 
ด้านอายุ บุคคลที่มีอายุน้อย ความท้อถอย มีมากกว่าบุคคลที่สูงอายุ ทั้งนี้เพราะความท้อถอยมีความสัมพันธ์กับประสบการณ์ วุฒิภาวะ การรู้จักชีวิตมากขึ้น 
ด้านสถานภาพการสมรส ความท้อมักเกิดกับคนโสดมากกว่าคนสมรสแล้ว ความท้อยังสัมพันธ์กับความเหงา คนโสดทั้งหญิงและชาย ถ้าเกิดอาการท้อถอย บุคคลในกลุ่มนี่จะเกิดอาการนานและค่อนข้างรุนแรง 
ด้านการปฏิบัติงานในความรับผิดชอบ เริ่มตั้งแต่สองปีแรกของการทำงานบุคคลจะเกิดความท้อได้ง่าย ยิ่งปฏิบัติงานแบบไม่มีใครช่วยใคร บุคคลยิ่งเกิดอาการท้อมากขึ้น  

การประยุต์ใช้
     นำไปปรับใช้ได้จริงในารทำงานในอนาคต เพื่อให้การบริหารงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ

การประเมินผล
ประเมินตนเอง   ตั้งใจเรียน จดบันทึกตามที่อาจารย์สอน
ประเมินเพื่อน   เพื่อนๆให้ความสนใจในเนื้อหาที่เรียน 
ประเมินครูผู้สอน   อธิบายฟังเข้าใจง่าย มีการยกตัวอย่างให้นักศึกษาฟังเสมอ



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น